เรื่องเล่ากับความเป็นจริง
หลายคนคงจำเรื่องเล่าที่เล่าต่อ ๆ กันมาจนสับสนว่าเรื่องเหล่านี้จริงหรือเท็จ เรื่องขำขันอันหนึ่งที่
เอาไว้แซวองค์การอวกาศสหรัฐที่ว่า "ปากกาไม่สามารถ
ใช้ในอวกาศได้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องหาวิธีการให้
นักบินอวกาศสามารถจดบันทึกได้ การวิจัยนี้ต้องใช้เวลา
หลายปีและใช้เงินภาษีหลายล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา
ปากกาที่สามารถเขียนได้แม้อยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก ใน
ขณะที่สหภาพโซเวียตให้นักบินอวกาศใช้ดินสอ"
เรื่องจริงคือ นักบินอวกาศของทั้งสองชาติได้ใช้ดินสอ
ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ก็มันช่วงปี 1960-1970 นี่นา ผมยัง
ไม่เกิดเลย หลังจากนั้น NASA ได้สั่งดินสอที่มีกลไก
จาก Houston's Tycam Engineering
Manufacturing, Inc. ในปี 1965 โดยจ่ายเงินไป
ทั้งหมด $4,382.50 หรือ $128.89 ต่อดินสอหนึ่ง
ด้าม และเมื่อราคานี้ถูกเปิดเผย NASA ก็ถูกประนาม ทำ
ให้ต้องมีการคิดค้นวิธีการใหม่ ๆ อีก
อย่างไรก็ตามดินสอนั้นไม่ใช้ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะว่า
ไส้ดินสอนั้นเมื่อหักก็จะมีเศษของไส้ดินสอลอยไปยังที่ต่าง ๆ และสามารถทำอันตรายแก่นักบิน
อวกาศและรวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ นอกจากนั้นดินสอยังเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ ทำให้ NASA ต้อง
หลีกเลี่ยงนื่องจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในยานอพอลโล 1
ในที่สุด Paul C. Fisher และบริษัทของเขาได้ประกาศถึงความสำเร็จในการสร้างปากกาซึ่งถูก
เรียกว่า Space pen ทั้งนี้ใช้เงินไปหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 1965) โดยที่ NASA ไม่ได้ให้
เงินวิจัยแม้แต่แดงเดียว ในปี 1965 Fisher ก็ได้จดสิทธิบัตรปากกาที่สามารถเขียนโดยหงายด้าม
ขึ้นและสามารถเขียนได้ในอุณหภูมิในช่วงตั้งแต่ -50 ถึง 400 องศาฟาเรนไฮต์ รวมทั้งใต้น้ำหรือ
ใต้ของเหลวชนิดอื่น(ใครมันจะไปเขียนใต้น้ำอย่างอื่นวะ) แต่ถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปหมึกจะเปลี่ยน
เป็นสีเขียวแทนที่จะเป็นสีน้ำเงิน
ในปีเดียวกัน Fisher ได้เสนอปากกา AG-7 "Anti-Gravity" Space Pen กับ NASA ใน
ตอนแรก NASA ก็ยังลังเลด้วยจะเกิดข้อครหาแบบเดิมอีก แต่ในที่สุดหลังจากที่ได้ทดสอบปากกา
จนเป็นที่พอใจแล้ว NASA ก็ตัดสินใจใช้ปากกาดังกล่าวตั้งแต่ปี 1967 เป็นต้นมา
ปากกาดังกล่าวจะไม่เหมือนปากกาลูกลื่นทั่วไป เพราะมันไม่ต้องอาศัยแรงโน้มถ่วงในการส่งผ่าน
หมึก ในหลอดหมึกจะถูกอัดด้วยไนโตรเจนที่ความดัน 35 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ซึ่งความดันนี้จะดัน
ให้หมึกผ่านลูกบอลที่ทำจากทังสเตนที่หัวปากกา
นอกจากนั้นน้ำหมึกก็ยังถูกออกแบบเป็นพิเศษต่างจากปากกาทั่วไป Fisher ใช้หมึกที่คงสภาพเป็น
เจลจนกว่าลูกบอลจะมีการหมุนซึ่งจะทำให้เจลเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลว ไนโตรเจนที่ถูกอัดยังทำ
หน้าที่ป้องกันอากาศเข้าไปผสมกับหมึก ดังนั้นหมึกจะไม่ระเหยหรือเปลียนสภาพ
ซึ่งตามรายงานในปี 1968 NASA ได้สั่งปากกาดังกล่าวจำนวน 400 ด้าม เพื่อใช้สำหรับโครงการ
อพอลโล ซึ่งหนึ่งปีถัดไปจากนั้นสหภาพโซเวียตก็ได้สั่งปากกา Fisher จำนวน 100 ด้าม และไส้
สำหรับเปลี่ยนอีก 1,000 ชุด เพื่อใช้ในสถานีอวกาศ Soyuz ในรายงานยังได้กล่าวว่าทั้ง NASA
และองค์การอวกาศโซเวียตยังได้รับส่วนลด 40% ทำให้ทั้งคู่จ่ายเงินเพียง $2.39 ต่อด้ามแทนที่
จะเป็น $3.98
ในโครงการอพอลโลได้กล่าวถึง Space pen ว่าไม่ได้มีไว้เขียนอย่างเดียว แต่นักบินอวกาศใน
ยานอพอลโล 11 ยังได้ใช้ปากกาในการซ่อมก้านสวิตซ์ที่ใช้ในการกลับสู่โลกอีกด้วย
ดังนั้นตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1960 นักบินอวกาศทั้งอเมริกาและรัสเซียก็ได้ใช้ปากกาของ Fisher
จริง ๆ แล้ว Fisher ได้ผลิต Space pen สำหรับนักบินอวกาศทั้งหมด ซึ่งปากการุ่นใหม่ได้ถูก
เรียกว่า Shuttle Pen และได้ถูกใช้ในกระสวยอวกาศของ NASA รวมทั้งสถานีอวกาศของ
รัสเซียด้วย สุดท้ายถ้าคุณอยากจะใช้ปากกาดังกล่าว คุณไม่จำเป็นต้องขึ้นไปกับยานอวกาศก็ได้
มันมีขายทั่วไปในราคา $50
แปลจาก
ข้อมูลเพิ่มเติม Space Pen
ซึ้อได้ที่ Space Pen จาก Amazon.co.uk
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น