West Germany - Luxemburg -Belgium Trip - ตอนที่ 4
- West Germany - Luxemburg -Belgium Trip - ตอนที่ 3
- West Germany - Luxemburg - Belgium Trip - ตอนที่ 2
- West Germany - Luxemburg - Belgium Trip - ตอนที่ 1
หลังจากลงจากรถไฟเยอรมันเข้ามายังดินแดนลุกเซมบวร์ก (อ่านตามเยอรมัน) แล้วได้ตั๋วไปเบลเยี่ยม
แล้ว เรามีเวลาไม่มากนักในการเดินทางรอบเมืองหลวงของประเทศนี้ จุดแรกที่น้องแซนพาไประลึก
ความหลังก็ คือเมืองโดยรอบ
ฤดูที่ไปยังเป็นรอยต่อของฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้ที่ต้องการให้เขียวโดยธรรมชาติก็ไม่เขียว
ให้ ร้านนี้ต้องการความสดใสของสีเขียวก็ใช้สีเขียวฉีดใส่ซะเลย หลักฐานคาตาไม่ต้องเถียงกันให้
เมื่อยตุ้ม
ผ่านที่ว่าการเมืองในขณะที่มีงานเทศกาล ด้านซ้ายคือห้องน้ำรวม ด้านขวาคือห้องน้ำชาย สังเกต
ดี ๆ มี ขนาดสำหรับเด็กด้วย งานนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนเมา
พระราชวังงบน้อยของลุกเซ็มบวร์ก มีทหารยืนอยู่คนเดียว แต่ที่นี่ไม่ใช้จุดหมายของเรา อ้าใช้
พระราชวังเป็น ทางผ่านซะแล้ว
เสาประหลาดกับลูกเสือหญิงสุดสวย ถ้าใครเคยเรียนลูกเสือมาแล้วไม่ลืมซะก่อน นี่แหละตำนาน
เมาคลีล่าสัตว์ มีต้นกำเนิดอยู่ที่นี่เอง เราไม่ได้เสียเงินเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์แต่ผมได้ใช้บริการห้องน้ำไป
สองครั้งฟรี ๆ ขอขอบ คุณสถานที่ดี ๆ แบบนี้ด้วยครับ
จะเข้าบ้านต้องมีสะพาน ใครจะเดินลงไปให้เมื่อหล่ะ จากเส้นทางนี้เราก็เดินไปลงลิฟท์เพื่อจะลงไปดู
บรรยากาศของเมืองด้านล่าง
ดูรูปนี้แล้วจะเข้าใจทันทีว่า "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" นั้นใช้ไม่ได้กับทุกกรณี ข้างล่างนี้ได้อารมณ์สะพานข้าม
แม่น้ำน่านยิ่งนัก หลังจากที่ลงมาข้างล่างก็คิดกันว่าจะนั่งรถเมล์กลับไปยังสถานีรถไฟ แต่จนแล้วจน
รอดเราก็หาป้ายบอกเวลาไม่ได้ (ผิดกลับที่เยอรมันลิบลับ) เราเลยต้องเดินย้อนกลับขึ้นไปข้างบน
ผ่านลิฟท์ตัวเดิม
น้องหมาเริ่มเบื่อกับการเดินทางที่หนาวเหน็บเลยของเก็กท่าให้เหมือนอนุสาวรีย์บ้าง ไม่รู้ว่าเหมือน
ม้าหรือ คนขี่ม้า แต่ก็แก้เบื่อได้พอประมาณ
รูปปั้นของหมาคนรวย หมาดี หมาคนรวย หมาที่ซื่อสัตย์ และหมาที่รักมาก ย่อมได้รับการบันทึกไว้
ใน ประวัติศาสตร์ แต่อ่านไม่ออก น้องแซนได้อธิบายไว้แล้วแต่จำไม่ได้ เศร้า
ลุกเซ็มบวร์กเป็นเมืองที่มีสองฟาก ด้านหนึ่งเป็นเมืองใหม่ที่กำลังสร้าง ในขณะด้านบนเป็นเมืองที่
สร้างไว้นานแล้ว สองฟากนี้คั่นด้วยสะพาน เวลาอยู่กลางสะพานหันหน้าหันหลังแล้วจะได้บรรยากาศที่
ดีอีกแบบ
Hello Kitty นี่มันฮิตทั่วไป ถึงแม้ที่นี่จะเป็นร้านซูซิ ตามห้างทั่วไปก็มีขายเต็มไปหมด
แล้วเราก็ขึ้นรถไฟออกจากประเทศนี้ในที่สุด ทุกคนเหนื่อยเมื่อยล้าแต่ไม่หลับ ก่อนขึ้นรถไฟก็ได้
เตรียมเสบียงกันหิวไว้แล้ว เพราะกว่าจะถึงเบลเยี่ยมเมืองหลวงแห่งยุโรปก็ปาเข้าไปดึกดื่น และไม่น่าเชื่อสถานีรถไฟที่ชื่อว่า Brussel Central นั้นแย่มาก ๆ
ถ้าใครมองโลกในแย่ดีก็อาจจะคิดว่ากำลังปรับปรุง แต่ที่จริงแล้วน้องปูปลาบอกว่ามันเป็นอย่างนี้มา
เป็นปีแล้ว เราเดินลงจากรถไฟด้วยความระทึก เส้นทางที่เดินผ่านนั้นมืดและอับชื้น เราสี่คนเดินอย่าง
ระมัดระวังและ ไม่ลืมที่จะติดต่อน้องปูปลาว่าไม่ต้องลงมารับ เพราะนึกเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าที่นี่มันไม่
ปลอดภัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น